ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
กลุ่มวัยแรงงาน อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น
สุกานดา วงศ์ภาคำ*, สุรัตนดา ซ้ายโฮง*, ปัทมา ล้อพงค์พานิชย์** เจษฎา สุราวรรณ์***
บทคัดย่อ
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกลุ่มวัยแรงงาน ส่งผลกระทบทางด้านสุขภาพและเศรษฐกิจต่อครอบครัวและชุมชน การศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกลุ่มวัยแรงงาน อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น รูปแบบการวิจัยเชิงวิเคราะห์ แบบไม่จับคู่ (Unmatched case-control) ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) กลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มควบคุมฉีดวัคซีน จำนวน 3 เข็ม ครบตามเกณฑ์ และกลุ่มเปรียบเทียบฉีดวัคซีนน้อยกว่า 3 เข็ม เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ระหว่างเดือน พฤษภาคม - กรกฎาคม 2565 ค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาของ
ครอนบาค เท่ากับ 0.84 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ สถิติการทดสอบไคสแควร์ และสถิติวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติก
ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ การรับรู้ความรุนแรงของโรคว่า “ผู้ป่วยโรคเรื้อรังถ้าติดเชื้อโควิด 19 จะมีอาการรุนแรงกว่าผู้ที่สุขภาพดี” (ORadj 3.47, 95% CI = 3.89-5.71, p-value <.01) การรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการติดโรคว่า “การล้างมือด้วยน้ำสะอาด ไม่ช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด19” (ORadj 6.30, 95% CI = 2.99-9.81, p-value <.01) การรับรู้ความสามารถตนเองต่อการป้องกันโรคว่า “ท่านไม่กลัวผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน” (ORadj 3.43, 95% CI = 3.27-4.89, p-value .003) และ “ถึงแม้การฉีดวัคซีนอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ท่านยังคงต้องการรับการฉีดวัคซีน” (ORadj 4.34, 95% CI = 4.02-5.85, p-value <.01) ตามลำดับ
คำสำคัญ: โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019, วัคซีน, วัยแรงงาน
Keywords: COVID-19, vaccination, working-age
* โรงพยาบาลหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น
** คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
*** กลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น
Download PDF Now
ดาวน์โหลดแล้ว 306 ครั้ง