ิตติมา อินศิริ*
บทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเสพและการจําหน่ายยาเสพติดของ ผู้ต้องขัง 2) เพื่อศึกษามูลเหตุจูงใจในการเสพและจําหน่ายยาเสพติดของผู้ต้องขัง กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ต้องขังชายและหญิงที่กระทําความผิดคดียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) ซึ่งถูกควบคุมตัว ในเรือนจํากลางขอนแก่น จํานวน 12 คน โดย คัดเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง (purposivesampling) จากผู้ต้องขังชายและหญิงที่สมัครใจเข้าร่วมการวิจัย แล้วดําเนินการสอบถามและสัมภาษณ์เชิงลึก (Indebt interview) วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้กระบวนการตีความ ให้ความหมาย หาความเชื่อมโยง เพื่อสร้างเป็นความรู้ความเข้าใจต่อพฤติกรรมการกระทําความผิดคดียาเสพติดของผู้ต้องขัง ผลการศึกษาพฤติกรรมการใช้ยาเสพติดของกลุ่มตัวอย่างพบว่า ใช้ยาเสพติดครั้งแรกอายุ 13 ปียาเสพติดที่ใช้ครั้งแรก ส่วนใหญ่ คือ ยาบ้า โดยได้มาจากเพื่อน และใช้ร่วมกับเพื่อน ปริมาณ ที่ใช้ในครั้งแรก เริ่มจากปริมาณน้อยแล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้นตามต้องการ โดยใช้ระยะเวลาในการ พัฒนาประมาณ3-6เดือน สถานที่ที่เสพยาครั้งแรกแล้วแต่เหตุการณ์เช่น ห้องนํ้าโรงเรียน บ้านเพื่อน ร้านอาหารหรือสถานบันเทิงขณะไปเที่ยว หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วิธีการเสพครั้งแรก มีทั้ง รับประทานเป็นเม็ดและดูดควัน พฤติกรรมการจําหน่ายยาเสพติด พบว่า ลูกค้ารายแรกส่วนใหญ่ คือ เพื่อนในกลุ่มที่เสพยาด้วยกัน และขยายจากเพื่อนสู่เพื่อน โดยวิธีปากต่อปากเหมือนระบบขายตรง ปริมาณที่จําหน่าย ในรายย่อย เช่น จําหน่ายในกลุ่มนักเรียนเริ่มจากปริมาณน้อย แล้วค่อยเพิ่ม ปริมาณขึ้นเรื่อย ๆ ในรายใหญ่จะเริ่มจากปริมาณที่มากตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่จําหน่าย มูลเหตุจูงใจ ในการเสพยาเสพติดพบว่า ต้องการคลายเครียด ต้องการให้ตัวเองสดชื่นคึกคัก ต้องการให้มีอารมณ์ ทางเพศเพิ่มขึ้น ต้องการประชดแฟน เพื่อนชวนและอยากลอง มูลเหตุจูงใจในการจําหน่ายยาเสพติด ส่วนใหญ่ต้องการเงินมาซื้อยาเสพต่อและหวังกําไรจากการจําหน่ายยาเสพติด อยากรู้ศักยภาพของ ตัวเองอยากได้กําไรจากการจําหน่าย อยากเป็นที่ยอมรับ และต้องการมีอํานาจในกลุ่มของตัวเอง และ มีส่วนน้อยที่คิดว่าทําง่าย ได้เงินเร็วและได้มาก จึงต้องการยึดเป็นอาชีพ
คําสําคัญ: ยาเสพติด, ผู้ต้องขัง,แรงจูงใจ
Download PDF Now
ดาวน์โหลดแล้ว ครั้ง