วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน
ISSN 3027-8082 (Print)
ISSN 3027-8104 (Online)

วารสารการพัฒนาชุมชน

ปีที่ 5 ฉบับที่ 7
img
บทคดัย่อ การวิจยัเชิงพรรณนานี ้มีวตัถปุระสงค์เพื่อศึกษาสดัส่วนการใช้ยาแก้ปวดและร้อยละของ ปัจจยัที่มีอิทธิพลตอ่การใช้ยาแก้ปวดในประชาชนชมุชนจนัทกึ ต าบลหนองสาหร่าย อ าเภอปากช่อง จงัหวดันครราชสีมา สมุ่ตวัอย่างโดยอาศยัหลกัความน่าจะเป็น (Probability sampling) ท าการสมุ่ แบบ simple random sampling โดยการใช้ตารางเลขสมุ่ (Random Number Table) ได้ 353 คน ใช้แบบสอบถามเก็บข้อมลู มีผ้รู่วมตอบแบบสอบถาม 345 คน ร้อยละ 97.73 และน ามาวิเคราะห์เชิง สถิติพรรณนาหาคา่ความถี่ ร้อยละ คา่เฉลยี่ สว่นเบี่ยงเบนมาตรฐาน กลมุ่ตวัอย่างมีการเลือกใช้ยาพาราเซตามอลมากที่สดุ ร้อยละ 91.6 แต่ยงัมีกลมุ่ตวัอย่าง เพียงเล็กน้อยที่มีเลือกใช้ยาแก้ปวดชนิด NSAIDs คือแอสไพรินและไอบโูปรเฟนร้อยละ 29.3 และ 53.9 ตามลา ดบั และจากการศกึษาปัจจยัที่มีอิทธิพลต่อการใช้ยาแก้ปวดโดยแบ่งยาเป็น 3 ชนิด คือ ยาพาราเซตามอล ยาแอสไพริน และไอบโูปรเฟน พบว่ามี 3 ปัจจยัหลกัที่เป็นสาเหตใุห้กลมุ่ตวัอย่าง ยงัมีการใช้ยาแก้ปวดอย่างต่อเนื่อง คือ มีอาการปวดจนไม่สามารถท างานได้เลยร้อยละ 31.9,11.9 และ 18.8 ตามล าดบั และปัจจยัที่ 2 และ 3 คือยาแก้ปวดก็สามารถหาได้ง่ายโดยไม่จ าเป็นต้องไป ตรวจรักษาร้อยละ 81.2, 27.5 และ 31.9 ตามลา ดบั และปัจจยัสดุท้ายคือยาแก้ปวดเหลา่นีส้ามารถ รักษาอาการปวดเมื่อยและใช้เมื่อมี ไข้ ร้อยละ 78.9, 24.9 และ 27.8 ตามล าดบั และยงัพบอีกว่าประชาชนบางส่วนยังมี พฤติกรรมที่ใช้ยาก่อนจะมีอาการหรือทานเพื่อป้ องกันการเป็นไข้หวัดซึ่งเป็นการใช้ยาผิดแผนไม่ สมเหตสุมผล ซึ่งพบการใช้ยาพาราเซตามอลมากที่สดุร้อยละ 31.3 รองลงมาคือยาแอสไพรินและ ไอบโูปรเฟน ร้อยละ 9.6 และ7.5 ตามลา ดบั แสดงให้เห็นวา่อาสาสมคัรยงัขาดความรู้เกี่ยวกบัการใช้ ยา ข้อควรระวงัและผลข้างเคียงของยาที่ไมถ่กูต้อง ดงันนั้บคุลากรทางสาธารณสขุจึงควรให้สขุศกึษา เกี่ยวกับยาแก้ปวดในแต่ละชนิด ประโยชน์ โทษของการใช้ยาแก้ปวดที่ถูกต้อง เพื่อให้อาสาสมคัร สามารถน าความรู้ไปประยกุต์ใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สดุ

Download PDF Now
ดาวน์โหลดแล้ว 7000 ครั้ง


ติดต่อเรา





เว็บไซต์ที่น่าสนใจ




Flag Counter



2019